เลือดมันข้น! 10 อันดับ นักเตะมุ่งสานต่อรอยเท้าผู้เป็นพ่อ!

 

ฟุตบอลเป็นกีฬาสำหรับครอบครัว จึงไม่แปลกเลยที่เด็กหลายคนจะถูกผู้ปกครองชักจูงเข้าไปให้รู้จักกับเกมอันแสนงดงามนี้

ที่มา : https://www.ball2step.com/10-อันดับ-นักเตะเลือดข้น

มันเกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นพ่อจูงมือลูกเดินเข้าสเตเดียมหรือแม้แต่นั่งรอเกมเริ่มอยู่หน้าจอทีวีที่บ้านด้วยกัน ฟุตบอลมันเป็นอะไรที่คนหลายคนสามารถแบ่งปันและมีส่วนร่วม

แต่เหนือไปกว่านั้น คุณลองนึกภาพตัวเองได้เกิดมาเป็นลูกชายของสุดยอดนักเตะระดับโลกสิ แน่นอนเลือดมันจะต้องสูบฉีดให้คุณอยากเอาแบบอย่างไอดอลในวัยเด็ก หรือแม้แต่ผลักดันให้คุณอยากจะทะยานไปประสบความสำเร็จเหมือนที่ผู้เป็นพ่อได้ฝากไว้กับวงการ

หลายคนอาจจะมองว่า การที่มีพ่อเป็นนักฟุตบอลระดับโลกก็ย่อมได้เปรียบกว่าคนอื่นสิ ไหนจะคำแนะนำจากปากโดยตรง ไหนจะประสบการณ์หลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่หาจากไหนไม่ได้

แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า ในอีกมุมหนึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็ต้องแบกความกดดันและความคาดหวังมหาศาลเอาไว้ เพราะถ้าคุณเลืกที่จะก้าวเข้ามาในเส้นทางนี้แล้ว หากห่วยหรือวันใดเกิดเหลวไหลขึ้นมา รับรองคุณจะต้องโดนจวกยับ แถมยังดูแย่เข้าไปอีกเมื่อถูกนำไปเปรียบกับเกียรติยศที่พ่อทำไว้

การที่ลูกจะสานต่อความสำเร็จของพ่อแน่นอนมันไม่ใช่เรื่องง่าย อาจจะได้เปรียบบ้าง แต่สุดท้ายมันก็ล้วนขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาเองด้วย ว่าจะพาความฝันนั้นไปได้ไกลแค่ไหน

หนึ่งในตัวอย่างที่ดีคงหนีไม่พ้นแคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ที่สามารถยกถ้วยพรีเมียร์ ลีกได้เหมือนที่พ่อของเขาเคยทำ ว่าแต่ตอนนี้มีใครบ้างที่กำลังกัดฟันต่อสู้เพื่อให้วันนั้นเป็นจริง และนี่คือ 10 นักเตะดังของยุโรปที่มีอนาคตสดใสในการสานต่อรอยเท้าผู้เป็นพ่อ!

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ | กองหน้า | โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ | 19 ปี

เราขอเริ่มกันที่นักเตะจอมพลังที่ย้อนกลับไปเพียง 1 ปีก่อน น้อยคนจริงๆที่จะรู้จักชื่อของเด็กคนนี้

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของอัลฟ์ อิงเก้ ฮาลันด์ อดีตนักเตะที่ใช้เวลาค้าแข้งส่วนใหญ่อยู่ในพรีเมียร์ ลีก โด่งดังกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ , และเป็นที่จดจำเมื่อครั้งเจ้าตัวทะเลาะเบาะแว้งกับรอย คีน จนเกือบขาหักเพราะกัปตันปีศาจแดงมาแล้ว

ในความโชคร้ายที่การเข้าปะทะครั้งนั้นส่งผลต่ออาชีพของเขาโดยตรง แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีของอัลฟ์ อิงเก้ ฮาลันด์ ที่เขาไม่ได้ถึงกับขาหักในวันนั้น อีกทั้งยังมีโชคชั้นที่สองหล่นทับอีก เมื่อลูกชายกำลังมีแววเด่นที่จะไปได้ไกลในเส้นทางลูกหนังกว่าผู้เป็นพ่อเสียอีก

ฮาลันด์แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับเร้ดบูลส์ ซัลส์บวร์กในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ซัดไปทั้งสิ้น 8 ประตู จนเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก สุดท้ายถูกตอบแทนความเฉียบขาดในสนามด้วยโอกาสในการย้ายไปเล่นในบุนเดสลีก้า กับโบรุสเซีย ดอร์มุนด์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซัดไปแล้วถึง 7 ประตูในบุนเดสลีก้า ด้วยเวลาที่ใช้ไปเพียง 226 นาทีเท่านั้น รวมถึงอีก 1 ตุงในเดเอฟเบ โพคาล

จัสติน ไคล์เวิร์ต | ตัวริมเส้น | โรม่า | 20 ปี

จัสตินยังเหลือภารกิจมีมากมายให้พิสูจน์ตัวเอง และอาจจะหนักกว่าคนอื่นเสียหน่อย เมื่อเขาต้องเดินตามความยิ่งใหญ่ของ แพทริค ไคล์เวิร์ต หนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ขุนพลอัศวินสีส้มเคยมีมา

ปัจจุบันเจ้าตัวลงเล่นเป็นตัวหลักให้กับโรม่า และหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่น่าจดจำสำหรับเจ้าหนูวัย 20 ปี ถึงตอนนี้ไคลเวิร์ตยิงไปแล้ว 5 ประตูจากการสัมผัสเกม 17 นัด ซึ่งก็ถือว่าไม่น่าเกลียดเลยสำหรับปีกวัยหนุ่มที่โลดแล่นในลีกใหญ่อย่าง ซีเรีย อา

ทิม เวอาห์ | กองหน้า | ลีลล์ | 19 ปี

จอร์จ เวอาห์ ถูกแฟนบอลจดจำขึ้นใจกับการเป็นหนึ่งในแข้งจากแดนแอฟริกาที่มีอิทธิพลมากที่สุดในวงการลูกหนัง ลงเล่นให้กับท็อปทีมของโลก อย่างเอซี มิลาน,เปแอสเช,และเชลซี รวมถึงประดับบารมีอย่างสมเกียรติด้วยรางวัลบัลลง ดอร์เมื่อปี 1995

จอร์จมีลูกชายชื่อทิม เวอาห์ที่ปัจจุบันเล่นให้ลีลล์ในลีกฝรั่งเศส หลังผ่านการบ่มเพาะจากศูนย์ศึกเยาชนของปารีส แซงต์แชกแมง อดีตต้นสังกัดของพ่อ โดยทิมเคยได้รับโอกาสสัมผัสเกมกับทีมชุดใหญ่ของเปแอสเชไปแล้ว 2 นัด อีกทั้งยังลงเล่นในสีเสื้อของทีมชาติสหรัฐอเมริกาไปแล้ว 8 เกมด้วยกัน

เฟเดริโก้ คิเอซ่า | ตัวริมเส้น | ฟิออเรนติน่า | 22 ปี

ในวัย 22 ปี คิเอซ่าน่าจะเป็นทายาทนักฟุตบอลที่โชกโชนบนพื้นสนามหญ้ามากที่สุดคนหนึ่งในลิสต์เราเลยก็ว่าได้ โดยเจ้าหนุ่มหน้าหล่อถูกดันขึ้นทีมชุดใหญ่ของทัพม่วงมหากาฬเมื่อปี 2016 แบกประสบการณ์ไม่น้อย ลงสนามไปแล้วถึง 132 เกม ยิงได้ 16 ประตู และยังมีผลงานติดทีมชาติอิตาลีทั้งหมด 17 เกมอีกต่างหาก

สำหรับคุณพ่อของเขาอย่าง เอ็นริโก้ คิเอซ่า ใช้เวลาพเนจรค้าแข้งกว่า 22 ปีกับสโมสรใหญ่มากมายในลีกแดนมะกะโรนี รวมไปถึงยอดทีมแห่งเมืองฟลอเรนซ์จากฟิออเรนติน่า เจ้าตัวก็เคยแวะเวียนมาในช่วงเวลาสั้นๆ

แม้ว่าเอ็นริโก้นั้นจะไม่ได้สัมผัสโทรฟี่อะไรมากมายนักในสมัยยังเป็นนักเตะ และมันก็ไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้ นอกเสียจากฝากความหวังให้ลูกชายอย่างเฟเดริโก้ ช่วยทำมันให้ถึงฝันด้วยตัวของเขาเองเท่านั้น

ดาเนี่ยล มัลดินี่ | กองหน้า | เอซี มิลาน | 18 ปี

ยังคงอยู่ที่อิตาลีเหมือนเดิม แต่คราวนี้เราจะขยับขึ้นมาทำความรู้จักกับลูกชายของ เปาโล มัลดินี่ หนึ่งในปราการหลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ลูกหนัง ติดตรงแค่ลูกชายของเขานั้นไม่ได้เกิดมาเพื่อป้องกันประตู แต่กลับเปี่ยมไปด้วยสัญชาติญาณการกระซวกประตูคู่แข่งแทน

ดาเนี่ยล มัลดินี่ ปัจจุบันลงเล่นให้กับทีมชุดเยาวชนของปีศาจแดง และกำลังมุ่งมั่นที่จะสอดแทรกขึ้นมาเป็นขาประจำในทีมชุดใหญ่ ดั่งที่พ่อของเขาเคยกอบโกยทุกความสำเร็จในรัง ซาน ซิโร่มาแล้ว

เด็กหนุ่มรายนี้ส่งสัญญาณแห่งความเป็นสุดยอดหัวหอก ด้วยทักษาะการเลี้ยง,การจ่ายและการจบสกอร์ อีกทั้งยังเป็นกองหน้าประเภทไม่กลัวที่จะต้องลงไปล้วงบอลขึ้นมาเอง หรือแม้แต่การตื่นตัวที่จะช่วยเหลือเกมรับในยามจำเป็น เสมือนว่ามีใครสักคนสอนเขาให้ทำแบบนั้น…

มาร์คัส ตูราม | กองหน้า | โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค | 22 ปี

ถือว่าเป็นเคสคล้ายๆกับดาเนี่ยลเลยก็ว่าได้ สำหรับมาร์คัสที่ได้เดินตามรอยเท้าของพ่อแบบตรงเป๊ะเสียทีเดียว ซึ่งพ่อของเขาอย่าง ลิลิยอง ตูรามที่ครองสถิติเป็นนักเตะที่ติดธงตราไก่มากที่สุดในประวัติศาสตร์นั้นลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ส่วนลูกชายอย่างมาร์คัสเลือกที่จะประจำในตำแน่งกองหน้า

หลังย้ายจากแก็งก็อง สโมสรในลีกเดอซ์ ฝรั่งเศสมาอยู่กับโบรุสเซีย มึเช่นกลัดบัคในซีซั่นนี้ ลูกชายของลิลิยองทำผลงานถือว่าดีเยี่ยม ซัดไปแล้ว 9 ประตูจากการลงเล่น 20 นัด

ว่าแต่มาร์คัสจะไปถึงฝันกับการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกตามรอยพ่อเขาได้หรือไม่? เวลาเท่านั้นคือคำตอบ..

จิโอวานนี่ ซิมิโอเน่ | กองหน้า | กายารี่ (ฟิออเรนติน่าปล่อมยืม) | 24 ปี

ลองนึกสภาพซิมิโอเน่คนลูกถูกพ่อติวเข้มในทุกๆวัน เหมือนที่ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ตะโกนใส่ลูกทีมแอตเลติโก้ มาดริดของเขาสิ ไม่แปลกจริงๆที่จิโอวานนี่จะเดินตามเส้นทางของเขามาถึงวันนี้ได้ ก็แหม่พ่อดุซะขนาดนั้น คงไม่ปล่อยลูกสะเปะสะปะแน่นอน

ปัจจุบันหัวหอกเลือดฟ้าขาวถูกฟิออเรนติน่าปล่อยให้กายารี่ยืมตัวใช้งาน และก็ทำผลงานได้น่าประทับใจเลยทีเดียว ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายได้ 5 ลูกจาก 15 นัดในลีก

ซึ่งหากว่าปีหน้าเขาได้กลับไปอยู่กับฟิออเรนติน่า ทีมจากเมืองฟลอเรนซ์ก็จะมีทายาทนักเตะอย่าง คิเอซ่าและซิมิโอเน่ อยู่ในทีมถึงสองคนเหมือนเดิม

แองกัส กันน์ | ผู้รักษาประตู | เซาท์แฮมป์ตัน | 24 ปี

แองกัสกำลังสร้างชื่อขึ้นมาให้เป็นที่รู้จักในพรีเมียร์ ลีก จากการที่นายทวารหนุ่มนั้นเป็นลูกชายของ ไบรอัน กันน์ อดีตจอมหนึบที่ครั้งหนึ่งเคยลงเฝ้าเสาให้ “นกขมิ้น” นอริช ซิตี้ถึง 390 นัด

ไบรอันถือว่าเป็นหนึ่งในตำนานจากยุคนั้นและวันหนึ่งลูกชายของเขาก็อาจจะเดินตามรอยไปเช่นกัน โดยแองกัส กันน์เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งของเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไม่เคยได้รับโอกาสลงสนามเลยแม้แต่นัดเดียว ก่อนถูกส่งยืมตัวไปหาประสบการณ์ที่ที่ซึ่งพ่อของเขาได้สร้างตำนานไว้อย่าง นอริช ซิตี้ จนสุดท้ายได้มาปักหลักกับเซาท์แฮมป์ตัน

นอกจากนี้กันน์ยังติดทีมชาติอังกฤษในชุดเยาชนขึ้นมาแทบจะทุกชุด และก็มีโอกาสที่วันหนึ่งเจ้าตัวจะถูกเรียกทีมทัพสิงโตคำรามชุดซีเนียร์ในเร็วๆนี้อีกด้วย นับว่านี่คือหนึ่งในผู้รักษาประตูอนาคตไกลของวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีเลยทีเดียว

ยานิส ฮาจี้ | กองกลางตัวรุก | เกงค์ | 21 ปี

ยานิส เป็นลูกชายของ จอร์จี้ ฮาจี้ แข้งฉายามาราโดน่าแห่งคาบสมุทรบอลข่าน ปัจจุบันลงเล่นให้กับเกงค์ในลีกเบลเยี่ยม ฉายแววมีอนาคตอันน่าจับตามองออกสตาร์ทให้ต้นสังกัดไปแล้ว 19 นัดในทุกรายการ

โดยยานิส เกิดที่ตุรกี ช่วงที่พ่อของเขาค้าแข้งกับ กาลาตาซาราย เขายิงประตูในการเล่นอาชีพกับวิโตรุล ได้ตั้งแต่อายุ 16 ก่อนย้ายไปร่วมทีม ฟิออเรนติน่า ในปี 2016 แต่ได้ลงสนามในเซเรีย อา เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้นจึงย้ายกลับมาเล่นในบ้านเกิดกับสโมสรเดิม

ซึ่งแม้ว่าจะได้รับความสนใจจากทีมใหญ่อย่างดอร์ทมุนด์และบาร์เซโลน่า แต่การที่เจ้าตัวมองว่ายังเป็นช่วงเวลาและปัจจัยหลายๆอย่างที่ยังไม่พร้อม บวกกับต้องการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สุดท้ายเลือกลงเอยกับเกงค์ในที่สุด

จิโอ เรย์น่า | กองกลางตัวรุก | โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ | 18 ปี

ความพิเศษของจิโอที่ทำให้เขาต่างจากคนอื่น คือเขาเป็นเด็กหนุ่มที่ได้รับสายเลือดแห่งความเป็นฟุตบอลมาอย่างเต็มตัวจากทั้งพ่อและแม่

เคลาดิโอ เรย์น่า พ่อแท้ๆของเขา ในอดีตเคยลงเล่นให้ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ,เรนเจอส์,และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่ ดาเนี่ยลเล่ ผู้เป็นแม่ ก็เคยเป็นนักฟุตบอลในระดับที่ติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาชุดหญิงมาแล้ว

ปัจจุบันเรย์นาฝากอนาคตไว้กับ ทัพเสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และกำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดกับอนาคตที่เด็กหนุ่มคนนี้อาจก้าวขึ้นมาเป็นยอดนักเตะจากแดนลุงแซมที่จะเฉิดฉายในเวทีระดับโลกคนต่อไป และด้วยตำแหน่งและเลือดมะกันทำให้ จิโอ ได้รับการยกย่องว่าจะเป็น “นิว พูลิซิช” เลยทีเดียว

โดยล่าสุด จิโอ เรย์น่า ได้สร้างชื่อ กลายเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในรายการเดเอฟเบ โพคาล ที่ 17 ปี 83 วัน ยิงได้ในเกมที่ ดอร์ทมุนด์ บุกพ่าย เบรเมน 2-3 เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา

Copyright © 2019. All rights reserved.
%d bloggers like this: