#Betway เว็ปตรงสัญชาติอังกฤษ คุณลองแล้วรึยัง?
? เข้าร่วมเป็นสมาชิกคลิก https://bit.ly/2K2oT9D
? สมาชิกใหม่จะได้รับ ?คูปองโบนัส 300 บาท
⚽ โบนัสฝากครั้งแรก(กีฬา) 200% เทิร์น 15 เท่า
? ฝากครบ 3,000 บาท รับเสื้อแจ็คเก็ต,นาฬิกา,กระเป๋าเป้
?️ คืนเงินทุกวัน 1% จากยอดเล่น สูงสุดในไทย?
?️ สิทธิประโยชน์อีกมากมายรอคุณอยู่?
ติดต่อเจ้าหน้าที่แชทสด? https://goo.gl/MGGYCW
?(ตลอด 24 ชม.)?♠️♥️♦️♣️
คอลัมน์ฟุตบอล – 75 ลป.ถูกไปเลย !! ไปดูสถิติชี้ชัด”ฟานไดค์”คือโคตรกองหลังแห่งยุคนี้
ทั้งหนัก ทั้งคม
การเข้าสกัดบอล พลาดน้อยมาก
แม้จะเป็นนักเตะร่างยักษ์ แต่ทาง ฟาน ไดค์ เข้าสกัดใส่คู่แข่งไปแล้วทั้งหมด 13 ครั้ง นับว่าสูงทีเดียวกับทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พุล แม้จะไม่ได้โดนทดสอบเกมรับแบบจัดหนักในทุกเกม แต่ตัวเลขค่อนข้างสูงทีเดียว อีกทั้งความชัวร์ในการตัดเกมนับว่าแถวหน้าของลีก เพราะเขามีเปอร์เซ็นต์เข้าสกัดสำเร็จใน พรีเมียร์ลีก สูงถึง 77 เปอร์เซ็นต์ นับว่าทำได้ดีกว่าทาง อิดริสซ่า กาน่า เกย์ ดาวเตะ เอฟเวอร์ตัน ที่เป็นเจ้าของเข้าสกัดมากที่สุดในตอนนี้ของศึก พรีเมียร์ลีก ประจำซีซั่น 2018-19 ที่ทำได้แค่ 60 เปอร์เซ็นต์ โดย เกย์ ทำการสกัดไป 57 ครั้ง จุดเด่นตรงนี้ทำให้ ลิเวอร์พุล เสียไปเพียงแค่ 5 ประตู ทำให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตูได้ และไม่เสียฟาวล์ด้วย นับว่าเป็นจุดแข็งในเกมรับของซีซํ่นนี้อีกด้วย
ตัวๆ กลัวที่ไหน
กองหน้าสไตล์ไหนเจอเข้า ลำบากแน่
กองหน้า หรือแนวรุกหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน หลังจากที่ได้เผชิญหน้าก็ยอมรับในความแข็งแกร่งของแนวรับรายนี้ หากนับในปีฤดูกาลใหม่ นับว่าการดับเครื่องชนเป็นขนมของ ฟานไดค์ เพราะเขาชนะจังหวะดวลกับคู่แข่งถึง 64 หนเลยทีเดียว การดวลกับคู่แข่งแบบตัวต่อตัวยังถือว่ากินแนวรับหัวฟูคนนี้ยากสุดๆ อีกทั้งจากสถิติที่ดูน่าทึ่งคือ เขาก็ยังไม่เคยเล่นผิดพลาดจนนำไปสู่การทำให้ทีมเสียประตูแม้แต่ครั้งเดียว แถมการเก็บบอลจากแถวสอง ที่ช่วยให้ทีมไม่ต้องเล่นเกมรับ และเปลี่ยนมาเป็นเกมรุก ก็ทำได้สูงถึง 58 ครั้งด้วย ซึ่งการทำอย่างนั้นได้มันช่วยให้ทีมไม่ต้องเจอกับความกดดัน และหลุดพ้นจากการสุ่มเสี่ยงที่จะเสียประตูอีกด้วย
กลางอากาศกวาดหมด
ลูกโด่งกินเรียบ
ด้วยความสูงใหญ่ ไม่ต้องสืบเลยว่าหากเป็นเรื่องลูกโด่ง พี่แกมักจะได้เปรียบอยู่เสมอ ด้วยส่วนสูง 193 เซนติเมตร และร่างกายที่ดูแข็งแกร่ง นี่คือจุดเด่นของ ฟาน ไดค์ ตั้งแต่สมัยที่เขาอยู่กับ เซลติก และ เซาธ์แฮมป์ตัน และเป็นส่วนสำคัญที่ คล็อปป์ ยอมทุ่มเงินกว่า 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,375 ล้านบาท) เพื่อคว้าตัว เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลังชาวดัตช์ เข้าสู่ทีม โดยในปีนี้ เจ้าตัวแย่งบอลกลางอากาศได้ถึง 44 ครั้ง และแพ้เพียง 22 หน อีกทั้งยังสกัดบอลพ้นพื้นที่อันตรายด้วยการโหม่งได้ถึง 31 ครั้ง จากการเคลียร์บอลรวมทั้งหมด 67 หน นี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ ช่วยให้ “หงส์แดง” เป็นรองจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก อยู่ในตอนนี้ นับว่าไม่มีใครสงสัยในเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ ลิเวอร์พูล ใช้ไป ในดีลนี้อีกแล้ว