Skip to content
เช่นเดียวกับสิ่งที่เรา จะนำเสนอในวันนี้ก็คือ 15 สถิติในวงการฟุตบอลที่คุณอาจไม่เชื่อว่ามันเคยเกิดขึ้นจริงๆ จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกัน ? ขอบอกเลยว่าแต่ละข้อนี่เห็นแล้วคุณจะต้องร้อง โอ้โห !!! กันเลยทีเดียว
ฟิลิปป์ ลาห์ม ไม่เคยทำฟาวล์นานแตะหลัก 1 ปี
ถ้าคุณเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังหน้าที่หลักๆ ของคุณเลยก็คือการเข้าสกัดบอลจากคู่แข่ง และแน่นอนว่าในการเข้าสกัดแต่ละจังหวะมันก็มีโอกาสกลายเป็นการทำฟาวล์ได้ แต่สำหรับ ฟิลิปป์ ลาห์ม อดีตแนวรับกัปตันทีมของ บาเยิร์น มิวนิค หารู้ไม่ว่าพี่แกไม่เคยทำฟาวล์เลยแม้แต่ครั้งเดียวเป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ สิงหาคม 2013 ถึง กันยายน 2014 เบ็ดเสร็จก็ 32 เกมด้วยกัน
มูรินโญ่ ไม่ได้รางวัลกุนซือยอดเยี่ยม 2 จาก 3 ปีที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก
ย้อนกลับไปสมัยคุม เชลซี โชเซ่ มูรินโญ่ สามารถเสกแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 3 สมัยด้วยกัน (รวมการคุมทีม 2 รอบ) แต่ในการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 2 และ 3 นั้นหารู้ไม่ว่าเฮียแกไม่เคยได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนเลย โดย 3 สมัยที่ได้คือเกิดขึ้นตอนเป็นแชมป์สมัยแรกทั้งหมด (พฤศจิกายน 2004, มกราคม 2005 และ มีนาคม 2017)
เนย์มาร์ ได้ผู้เล่นยอดเยี่ยม ลา ลีกา ก่อน เมสซี่
ถึงแม้ ลิโอเนล เมสซี่ จะได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน แต่ เนย์มาร์ อดีตเพื่อนเก่าที่ บาร์เซโลน่า กลับได้รับรางวัลผู้เล่น ลา ลีกา ยอดเยี่ยมประจำเดือนตัดหน้าไปก่อน โดยรางวัลนี้เริ่มก่อตั้งและเริ่มแจกกันในปี 2013 และ เนย์มาร์ ก็ได้รางวัลนี้ตั้งแต่ปีแรกที่จัดตั้งเลย ส่วน เมสซี่ กว่าจะได้สัมผัสครั้งแรกต้องรอจนถึง มกราคม 2016 โน่นเลย และตอนนี้ก็คว้ามาแล้ว 6 ครั้งด้วยกัน
แมนฯ ยู ไม่เคยแพ้ในลีก ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถ้านำก่อนจบครึ่งแรก
ถ้ายังอยู่ในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เราอาจเชื่อสถิตินี้ได้โดยที่ไม่ต้องไปเปิดหาข้อมูลหรือสถิติมาพิสูจน์ แต่หารู้ไม่ว่าสถิตินี้ยังคงอยู่ต่อไป จนถึงตอนนี้ถ้าเกิด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลงเล่นในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และถ้าพวกเขานำคู่ต่อสู้หลังจบครึ่งแรก เกมนั้นพวกเขาจะไม่แพ้
วัลค็อตต์ ยิงใน ชปล. ได้มากกว่าแข้งดังหลายคน
มีการเปิดเผยว่า ธีโอ วัลค็อตต์ อดีตปีกตัวจี๊ดของ อาร์เซน่อล ยิงประตูได้ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 15 ประตูด้วยกันซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่านักเตะชื่อดังหลายๆ คนทำได้ไม่ว่าจะเป็น โรนัลโด้ R9, ซีเนดีน ซีดาน, มิโรสลาฟ โคลเซ่, ดาบิด บีย่า, อเล็กซิส ซานเชซ และ เอแด็น อาซาร์
นักเตะ 2 คนที่ยิงประตูได้ครบทุกนาที
นี่อาจเป็นสถิติที่ต้องใช้เวลานานมากถ้าอยากพิสูจน์ว่ามันจริงหรือไม่ แต่จากการเปิดเผยของสื่อประเทศเขาได้ระบุว่ามีผู้เล่นเพียง 2 คนเท่านั้นในประวัติศาสตร์ลูกหนังที่สามารถยิงประตูได้ครบทุกนาทีตั้งแต่นาทีที่ 1-90 ซึ่ง 2 คนที่ว่านั้นได้แก่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ซลาตัน ไม่เคยได้แชมป์ ชปล.
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าที่มีสถิติการพังประตูโหดที่สุดคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนัง เรื่องนี้ไม่มีใครตั้งข้อสงสัยในตัวพี่แกแน่ๆ ถึงแม้อายุอานามจะมากแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ดูเป็นจุดด่างพร้อยในประวัติอาชีพค้าแข้งของพี่แกก็คือการไม่เคยได้สัมผัสกับแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นี่แหละ ทั้งที่เขาเคยค้าแข้งอยู่กับ 6 สโมสรที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้ไม่ว่าจะเป็น เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ มัลโม่
สเปน คว้าแชมป์โลกด้วยการยิงแค่ 8 ประตู
ในยุคทองของ ทีมชาติสเปน พวกเขาเล่นกวาดแชมป์เมเจอร์ใหญ่ๆ ได้ 3 สมัยติดไล่ตั้งแต่ ยูโร 2008, ฟุตบอลโลก 2010 และ ยูโร 2012 จริงอยู่ที่ทัพ ‘กระทิงดุ’ เป็นชาติที่มีเกมรุกจัดจ้านมากๆ แต่ในปี 2010 ที่พวกเขาเถลิงบัลลังก์แชมป์โลก ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ทั้งทัวร์นาเมนต์พวกเขายิงไปแค่ 8 ประตูเท่านั้น โดยเกิดขึ้นในรอบแบ่งกลุ่ม 4 ประตู (ฮอนดูรัส 2 ประตู, ชิลี 2 ประตู) ส่วนรอบน็อคเอาท์ ยิงใส่ โปรตุเกส 1 ประตู, รอบ 8 ทีม ยิงใส่ ปารากวัย 1 ประตู, รอบรองชนะเลิศ ยิงใส่ เยอรมัน 1 ประตู เช่นเดียวกับนัดชิงชนะเลิศกับ ฮอลแลนด์ ก็ยิงใส่ไป 1 ประตู
ไม่เคยได้รับใบเหลืองสักใบ
แกรี่ ลิเนเกอร์ ได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ คนหนึ่งในวงการลูกหนัง และที่ผ่านมาก็ได้โอกาสค้าแข้งกับทีมดังๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น เลสเตอร์ ซิตี้, เอฟเวอร์ตัน, บาร์เซโลน่า และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แต่คุณรู้ไหมว่าตลอดช่วงเส้นทางค้าแข้งกว่า 15 ปี แกรี่ ลิเนเกอร์ ไม่เคยได้รับใบเหลืองเลยแม้แต่ครั้งเดียวนับเป็นนักเตะที่เพอร์เฟคมากๆ เรื่องสถิติการคุมวินัย
19 ประตูในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก
สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบัน หลายคนทราบดีว่าเขาคือตำนานกองหลังผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และโดยปกติทั่วไปหน้าที่ของผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กก็คือการป้องกันและขัดขวางเกมรุกของศัตรูไม่ให้เข้าไปยิงประตูได้ แต่หารู้ไม่ว่ามันมีอยู่ปีหนึ่งที่ สตีฟ บรูซ แกเล่นระเบิดตาข่ายไปกระจุยกระจายถึง 19 ประตูใน 1 ฤดูกาล (1990-91) เล่นซะเพื่อนๆ กองหน้าในอาชีพด้วยกันเขินอายกันเป็นแถบเลย
3 นักเตะที่เคย ยิง, แอสซิสต์ และ โอว์น โกล์ ในเกมเดียวกัน
ในเกมการแข่งขันฟุตบอล คนที่ยิงประตูพาทีมต้นสังกัดเก็บชัยชนะได้เขาเรียกว่าฮีโร่ ส่วนคนที่ทำให้เสียประตูด้วยการยิงทีมตัวเองก็เปรียบเสมือนเป็นผู้ร้าย และคุณรู้ไหมว่าในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล พรีเมียร์ลีก มันมีอยู่ 3 คนที่เป็นทั้งฮีโร่และผู้ร้ายในเกมเดียวกัน นั่นคือการ ยิงได้, ทำแอสซิสต์ได้ และก็ทำเข้าประตูตัวเองในเกมเดียวกันซึ่งประกอบไปด้วย เวย์น รูนี่ย์ (เกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอ สโต๊ค ซิตี้ ปี 2012), แกเร็ธ เบล (เกมที่ สเปอร์ส เจอ ลิเวอร์พูล ปี 2012) และ เควิน เดวิส (เกมที่ โบลตัน เจอ แอสตัน วิลล่า ปี 2008)
โกมัน คว้าแชมป์ลีกทุกปีในระดับอาชีพ
คิงส์ลี่ย์ โกมัน นับเป็นนักเตะที่โชคดีมีบุญตั้งแต่ได้ขึ้นมาโลดแล่นอยู่ในสังเวียนระดับอาชีพ เพราะตั้งแต่ฤดูกาล 2012-13 ที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ให้โอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ หารู้ไม่ว่าจนถึงตอนนี้พี่ได้สัมผัสกับแชมป์ลีกทุกปีนะ ไล่ตั้งแต่กับ ‘เปแอสเช’ 2 สมัย ย้ายมาอยู่กับ ยูเวนตุส อีก 2 ปีก็ได้แชมป์ลีกอีก 2 สมัย และปัจจุบันอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค เป็นฤดูกาลที่ 5 แล้ว และ 4 ซีซั่นก่อนหน้านี้ โกมัน ก็ได้สัมผัสกับแชมป์ลีกทุกปี
สัญญาว่า ‘ห้ามไปนอกโลก’
ในโลกของฟุตบอลสโมสรกับนักเตะมักมีเงื่อนไขสัญญาแปลกๆ อยู่มากมาย และในเคสที่พิลึกมากๆ นั่นก็ได้เกิดขึ้นกับ สเตฟาน ชวาร์ซ กองกลางชาวสวีเดน สมัยค้าแข้งอยู่กับ บาเลนเซีย และจากนั้น ซันเดอร์แลนด์ ก็สนใจดึงตัวไปร่วมทีมในปี 1999 เขามีความฝันอยากไปท่องอวกาศ เพราะหนังที่เขาชอบคือ เจมส์ บอนด์ 007 ภาค Moonraker ที่มีฉากต่อสู้กันบนสถานีอวกาศ และในวันที่พี่แกเซ็นสัญญากับทีมใหม่ เหมือนทางซีอีโอของ ‘แมวดำ’ จะรู้มาว่า ชวาร์ซ กำลังเก็บเงินไปเที่ยวอวกาศก็เลยใส่เงื่อนไขเพิ่มเข้าไปในสัญญาว่า “ห้ามนักเตะเดินทางไปนอกโลก” ตัวนักเตะทำอะไรไม่ได้นอกจากจะตอบ เซย์ เยส ไป
9 ปีที่ มูรินโญ่ ไม่เคยแพ้ในบ้าน
โชเซ่ มูรินโญ่ อาจจะโดนวิจารณ์เยอะเรื่องผลงานการคุมทีมตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่หารู้ไม่ว่าในช่วงที่เฮียแกพีคๆ ได้เคยสร้างสถิติที่ยังไม่เคยมีใครทำลายได้เอาไว้นั่นก็คือการไม่แพ้เกมเหย้าเป็นเวลา 9 ปีด้วยกันไล่ตั้งแต่สมัยคุม ปอร์โต้, เชลซี, อินเตอร์ มิลาน มาจนถึง เรอัล มาดริด เบ็ดเสร็จก็ 150 เกมพอดิบพอดี ก่อนที่สถิติจะมาเสียวันที่ สปอร์ติ้ง กิฆ่อน บุกมาทุบ ‘ราชันชุดขาว’ คารัง ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
เรอัล มาดริด ชนะทีมชุดสำรองในนัดชิงบอลถ้วย
เรอัล มาดริด เถลิงบัลลังก์แชมป์ โกปา เดล เรย์ สมัยที่ 19 เมื่อปี 1980 แต่หารู้ไม่ว่า คู่แข่งนัดชิงชนะเลิศในปีนั้นคือ เรอัล มาดริด กาสติย่า หรือทีมชุดสำรองของพวกเขานั่นเอง มันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่านั้น และวันนั้นที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ‘ราชันชุดขาว’ ชุดใหญ่ก็เล่นยำใหญ่แบบไม่ปราณีไปถึง 6-1
ที่มา : ขอบสนาม
Like this:
Like Loading...
Related